ปลากราย (Chitala ornata, Haminton) เป็นปลาน้ำจืดที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ประชาชนชอบบริโภคเนื่องจากเนื้อปลากรายมีรสชาติดีสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น ทอดมันปลากราย ลูกชิ้นปลากราย เชิงปลากรายทอดกระเทียม เป็นต้นทำให้ราคาจำหน่ายปลากรายในท้องตลาดค่อนข้างมีราคาแพงประมาณกิโลกรัมละ 70-80 บาท ส่วนเนื้อปลาขูดราคากิโลกรัมละ 150 บาท อีกทั้งปลากรายขนาดเล็กมีลักษณะสวยงามเป็นที่ต้องการของตลาดปลาสวยงามทั้งภายในและภายนอกประเทศ ปลากรายที่นำมาจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นปลาจากแหล่งน้ำธรรมชาติซึ่งมีปริมาณลดลงทุกปี กรมประมงจึงได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัย และพัฒนาประมงน้ำจืดลพบุรีดำเนินการศึกษาค้นคว้าและเร่งเพาะขยายพันธุ์เพื่อฟื้นฟูพันธุ์ปลาและส่งเสริมเป็นอาชีพต่อไป
ปลากรายเป็นปลาน้ำจืดที่พบมากในประเทศไทย อินโดนีเซีย อินเดีย มาเลเซียและพม่า ในประเทศไทยพบอาศัยในแม่น้ำลำคลอง หนองและบึงทั่วประเทศ ยกเว้นภาคใต้ โดยมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น ภาคเหนือเรียกว่าปลาหางแพน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกปลาตองกราย เป็นต้น ปลากรายเป็นปลาประเภทกินเนื้อ อาหารของปลากรายตามธรรมชาติได้แก่ ตัวอ่อนของแมลง กุ้ง ลูกปลาขนาดเล็ก และสัตว์น้ำอื่น ๆปลากรายมีลักษณะลำตัวยาวบาง แบนข้าง ส่วนหัวมีขนาดเล็ก เว้าเป็นสันโค้งและแยกออกจากลำตัวเห็นชัดเจน เหนือครีบก้นจะมีจุดสีดำค่อนข้างใหญ่ ประมาณ 5 – 10 จุดเรียงเป็นแถว สีของลำตัวเป็นสีขาวเงิน ส่วนหลังมีสีคล้ำกว่าส่วนท้อง ขนาดของปลากราย ที่พบส่วนใหญ่ยาวประมาณ 70–75 เซนติเมตร ส่วนลูกปลาที่มีขนาดไม่ เกิน 9 เซนติเมตร จะมีลายสีเทาดำ ประมาณ
10–15 แถบ พาดขวางลำตัว เมื่ออายุประมาณ 80 วัน ลายจะเลือนหายไปและกลายเป็นจุดสีดำ
![]() |
รอบๆบริเวณบ่อปลากราย |

การเพาะพันธุ์ปลากราย
การเพาะพันธุ์ปลากรายสามารถทำได้โดยง่าย ไม่จำเป็นต้องฉีดฮอร์โมนกระตุ้นก็สามารถวางไข่ได้เองในบ่อดิน โดยไข่จะติดกับวัสดุที่เตรียมไว้ สรุปขั้นตอนการเพาะพันธุ์ปลากรายของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลพบุรี ดังต่อไปนี้
1. บ่อเพาะพันธุ์ บ่อเพาะพันธุ์ควรเป็นบ่อดินขนาด 0.5 ไร่ พื้นบ่อควรเป็นดินเหนียวไม่ควรเป็นโคลนตม ระดับน้ำประมาณ 1.00 – 1.50 เมตร
2. การปล่อยพ่อแม่พันธุ์ปลากราย ทำการคัดเลือกพ่อแม่ปลากรายที่มีอายุถึงวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 2 ปี ขึ้นไป)ปล่อยลงในบ่อเพาะพันธุ์ในอัตรา 36 คู่ ต่อบ่อขนาด 0.5 ไร่3. วัสดุสำหรับให้ปลากรายวางไข่ หลังจากทำการปล่อยพ่อแม่พันธุ์ปลากรายลงในบ่อเพาะพันธุ์แล้ว ต้องนำวัสดุไปวางไว้สำหรับให้ปลากรายมาวางไข่ โดยวัสดุที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลพบุรี ใช้ได้แก่ กระถางดินเผา ขนาดสูง 24 เซนติเมตร ปากกว้าง 20 เซนติเมตร การนำกระถางดินเผาไปวางให้ปลากรายวางไข่ ควรวางกระจายให้ทั่วบ่อ เว้นระยะให้เท่ากัน โดยวางกระถางคว่ำที่พื้นบ่อ ทุกจุดที่วางวัสดุสำหรับให้ปลาวางไข่ต้องทำสัญลักษณ์บอกตำแหน่ง เช่น ใช้เชือกผูกและปลายเชือกอีกข้างหนึ่งมัดไว้กับทุ่นลอยอยู่บริเวณผิวน้ำ หรือ ใช้ไม้ไผ่ปัก

5. การตรวจสอบการวางไข่ของปลากราย หลังจากนำวัสดุสำหรับให้ปลาวางไข่ไปวางที่บ่อเพาะพันธุ์เรียบร้อยแล้ว ต้องหมั่นตรวจสอบการวางไข่ของปลากรายทุกสัปดาห์ ๆ ละ 2 ครั้ง โดยการยกกระถางดินเผาขึ้นดู ถ้าไม่พบให้ทำความสะอาดกระถางแล้ววางไว้ที่เดิม ส่วนรังไข่ที่รวบรวมเพื่อนำขึ้นมาฟักนั้นให้นำกระถางใบใหม่วางลงทดแทนที่เดิม ทำการลำเลียงไข่ของปลากรายโดยให้รังไข่แช่อยู่ในน้ำตลอดเวลา และนำไปยังโรงเพาะฟักเพื่อทำการฟักไข่ต่อไป
6. การฟักไข่ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้6.1 ทำการล้างดินโคลนที่ติดมากับกระถางดินเผาออกให้หมด6.2 นำไข่ปลากรายไปฟักในกะละมังพลาสติก กล่องโฟม หรือภาชนะอื่นใด เติมสารป้องกันเชื้อรา ให้อากาศตลอดเวลา ในเวลาประมาณ 6–7 วัน ลูกปลากรายจะฟักออกเป็นตัว ขณะนี้ลูกปลายังเกาะติดกับกระถางและจะหลุดจากกระถางภายในเวลา 2 วัน ลูกปลามีนิสัยชอบรวมกลุ่มหลบซ่อนอยู่ใต้กระถาง หลังจากลูกปลาหลุดออกจากกระถางหมดแล้ว จึงรวบรวมนำไปอนุบาลต่อไป6.3 ลูกปลากรายที่ฟักออกเป็นตัวใหม่ ๆ จะมีถุงไข่แดง (yolk sac) ติดอยู่กับหน้าท้อง ลูกปลาจะใช้สารอาหารจากถุงไข่แดงเพื่อเลี้ยงตัวเอง เมื่อถุงไข่แดงยุบหมดแล้วซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 วัน ปากของลูกปลาจะเปิดและจะเริ่มกินอาหาร สังเกตได้จากลูกปลาว่ายสู่ผิวน้ำ จึงเริ่มให้อาหาร อาหารที่ใช้ คือ ไรแดง

ขอขอบคุณ : ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น